แต่งร้านกาแฟแบบไหน.. ? ที่ใครใคร ก็อยากมาจิบ

Last updated: 12 พ.ย. 2567  |  48 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แต่งร้านกาแฟแบบไหน.. ? ที่ใครใคร ก็อยากมาจิบ

แต่งร้านกาแฟแบบไหน.. ? ที่ใครใคร ก็อยากมาจิบ

.. หลายๆ คนที่เปิดร้านกาแฟ มักมีรูปแบบ หรือ Style ที่ตนเองชอบ แต่พวกเรา JourneyMan อยากจะขอ “ติง..ติง..” ไว้ซักนิด

.. ในบางครั้งการเปิดร้านกาแฟ ในย่านต่างๆ ข้าง Office ข้างมหาวิทยาลัย ข้างตลาดค้าส่ง หรืออื่นๆ ทุกที่ล้วนมี กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนที่จะแต่งร้านกาแฟ แวะไปนั่งแถวๆ นั้นซัก 3-4 วัน ดูให้แน่ ดูให้ชัดว่า แถวนั้นใครเดิน หรือมีกลุ่มไหนน่าสนใจบ้าง..
.. แล้วค่อยแต่งร้าน ในแบบที่ “กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย” ชอบ ไม่ใช่ แต่เราชอบเพียงอย่างเดียว

.. เอาเป็นว่า หมดเวลา “ติง” ละ

คราวนี้ มาดูกันว่า..ถ้าเราเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็น กลุ่มคน Gen Y. หรือ Gen Z. ว่าง่ายๆ ก็คือกลุ่มคนวัยทำงาน หรือเพิ่งเข้าทำงาน น่ะแหล่ะ รวมไปถึงวัยใสใส นักศึกษาแล้วล่ะก็..
เรามาดูเบื้องต้นก่อนเลยว่า กลุ่มนี้...

.. ชอบ ที่จะไปร้านกาแฟ Style ไหน..
.. จัดไป ซัก 5 สไตล์ ก็แล้วกันนะครับ

.. การออกแบบร้านกาแฟในสไตล์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเจน Y และ Gen Z ต้องคำนึงถึงความทันสมัย ความสะดวกสบาย และการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ นี่คือ 5 ไอเดียการตกแต่งร้านกาแฟทั้งภายนอกและภายใน ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนี้ พร้อมแนวคิดในการออกแบบ

1. สไตล์มินิมัลลิสต์ (Minimalist)


แนวคิด : 
.. การออกแบบในสไตล์มินิมัลลิสต์เน้นความเรียบง่าย ใช้โทนสีขาวและสีธรรมชาติ เช่น ไม้และคอนกรีต เพื่อให้บรรยากาศดูสะอาดตาและไม่ยุ่งเหยิง

การตกแต่ง : 
- ภายนอก : ใช้กระจกขนาดใหญ่เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ และให้ลูกค้าเห็นบรรยากาศภายในร้าน
- ภายใน : เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีลวดลายซับซ้อน พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เช่น โซฟาหรือเบาะนุ่ม


2. สไตล์อุตสาหกรรม (Industrial)


แนวคิด : 
.. การออกแบบในสไตล์อุตสาหกรรมใช้วัสดุที่ดูดิบ เช่น เหล็ก ไม้ และคอนกรีต โดยสร้างบรรยากาศที่มีความเป็นเมืองและทันสมัย

การตกแต่ง : 
- ภายนอก : ใช้ป้ายโลหะหรือไม้เก่า เพื่อสร้างความรู้สึกดั้งเดิม
- ภายใน : โครงสร้างเหล็กเปิดเผย, หลอดไฟแบบ Vintage, และโต๊ะไม้ที่มีลักษณะไม่สมมาตรเพื่อให้ความรู้สึกเป็นกันเอง

 

3. สไตล์ธรรมชาติ (Tropical Style)


แนวคิด : 
.. การออกแบบในสไตล์ธรรมชาติมุ่งเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน และพืช เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

การตกแต่ง : 
- ภายนอก : ปลูกต้นไม้หรือพืชพันธุ์ต่างๆ รอบๆ ร้าน เพื่อสร้างบรรยากาศสดชื่น
- ภายใน : ใช้ไม้ธรรมชาติในการตกแต่งผนังและเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงมีมุมสำหรับปลูกพืชในร้าน

 

4. สไตล์ทันสมัย (Modern Style)


แนวคิด : 
.. การออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ดูๆ ไปจะใกล้เคียง Style Minimal แต่สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือลักษณะของเส้นสาย และการให้สี เพื่อให้ คนที่เข้ามาใช้บริการ รู้สึกถึงความทันสมัย ความตื่นเต้น

การตกแต่ง : 
- ภายนอก : ใช้สีที่เน้น Mono Tone เช่นขาว ดำ และเทา รวมไปถึงรูปทรงเรขาคณิตในการออกแบบร้าน
- ภายใน : มีพื้นที่สำหรับทำงานร่วมกัน เช่น โต๊ะทำงานกลุ่ม ในแบบโมเดิร์น มีปลั๊กไฟและ Wi-Fi ฟรี เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการทำงานในร้าน

 

5. สไตล์โบฮีเมียน (Bohemian Style)

 

แนวคิด : 
.. เป็นการตกแต่งที่เน้นสีสันสดใส ลวดลายแบบโบฮีเมียน เน้นความสร้างสรรค์และอิสระ มักใช้ของตกแต่งที่มีสีสันหรือลวดลายที่หลากหลาย

การตกแต่ง : 
- ภายนอก : ใช้การตกแต่งที่โดดเด่นเช่นการเพ้นท์ลายผนัง หรือป้ายร้านที่มีศิลปะสดใส
- ภายใน : ผสมผสานโซฟาที่มีลายพิมพ์ หมอนอิงหลากสีสัน พื้นปูพรมลวดลาย และการจัดแสงที่เป็นธรรมชาติ

 

สรุป
.. การออกแบบร้านกาแฟให้ตอบโจทย์กลุ่มเจน Y และ Gen Z ควรเน้นความทันสมัย ความสะดวกสบาย และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ การเลือกใช้วัสดุ สี และรูปแบบในการตกแต่งสามารถช่วยให้ร้านกาแฟของคุณโดดเด่นและเป็นที่นิยมในกลุ่มเป้าหมายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

.. สำคัญที่สุด.. คำนึงถึง "ความชอบ" และ "สไตล์" การใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย 
.. ไม่ใช่มองแต่ความชอบของเรา

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้