อเมริกาโน่(Americano)และเอสเพรสโซ่(Espresso) ความเหมือนที่แตกต่าง

Last updated: 3 ก.ค. 2566  |  428 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อเมริกาโน่(Americano)และเอสเพรสโซ่(Espresso) ความเหมือนที่แตกต่าง

 
อเมริกาโน่(Americano)และเอสเพรสโซ่(Espresso) ความเหมือนที่แตกต่าง
 

…เพื่อนๆหลายๆคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ แล้วมีวันนึงจำเป็นที่ต้องเดินเข้าร้านกาแฟสตาร์บัคส์ แล้วเจอเมนูแปลกประหลาดมากมายทั้งไม่เคยได้ยิน ทั้งงง เมนูแรกๆที่เพื่อนและผมคิดถึงก็คงไม้พ้นกาแฟอเมริกาโน่ (Americano) แน่นอน เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย และ รสชาติคุ้นเคย

...การสั่งกาแฟอเมริกาโน่ (Americano) น่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เข้าร้านกาแฟสตาร์บัคส์ (Starbucks)เป็นครั้งแรก  ซึ่งกาแฟอเมริกาโน่(Americano) เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่ดื่มง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ได้รสชาติของกาแฟ และอร่อย ซึ่งยังคงรักษารสชาติ และความคุ้นเคยของรสชาติปกติของกาแฟ ทั้งยังมีความเข้มข้น และ ยังได้ความหวานของเอสเพรสโซ่(Espresso) อีกด้วย

 

...กาแฟอเมริกาโน่(Americano) เป็นเครื่องดื่มที่ง่ายที่สุด สะดวกสบายที่สุด กาแฟอเมริกาโน่(Americano) เริ่มต้นการทำง่ายๆ โดยใช้น้ำร้อนใส่เข้าไปก่อนในแก้วที่เราจะดื่มแล้วเติมเอสเพรสโช่(Espresso Shot) ที่แสนจะเข้มข้น หอมหวาน ลงไปในแก้วนั้น  กาแฟอเมริกาโน่(Americano) ข่วยให้ผู้ดื่มสัมผัสได้ถึง ความเป็นเอสเพรสโซ่(Espresso) ความซับซ้อนของกาแฟที่บาริสต้าเสริฟให้เราอีกด้วย มาถึงตรงนี้เพื่อนๆ เริ่มจะสนุกและยากรู้ว่าที่มาที่ไปของเมนูนี้เป็นอย่างไร เรามาเริ่มกันเเลยนะครับ

...วันนี้นายแมนชวนเพื่อนๆมาร่วมค้นหากันครับว่า เครื่องดื่ม ที่มี เอสเพรสโซ่ เป็นส่วนประกอบหลักที่ชื่อ อเมริกาโน่ ที่่นิยมไปทั่วโลกนี้ มีประวัติยาวนานกว่า 80 ปีที่แล้ว ถ้าพร้อมแล้ว มาค้นหาด้วยกันเลยครับ

...เรื่องความเป็นมาขอกาแฟอเมริกาโน่(Americano) เพื่อนๆหลายคนอาจรู้แล้วว่ามาจาก เครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะอย่างที่เรารู้กันครับ ชาวอเมริกา หรือ ทหารอเมริกา เป็นผู้ชื่นชอบกาแฟและเป็นเครื่องดื่มที่สำคัญมาก โดยปกติในช่วงนั้นทหารอเมริกา 1 คนจะบริโภคกาแฟประมาณ 15 กิโลกรัม/ปี ในช่วงเวลานั้น

...การที่ทหารอเมริกาได้เข้ามาประจำการในประเทศอิตาลี ซึ่งแน่นอนละกาแฟที่เป็นเมนูประจำท้องถิ่นของประเทศอิตาลีคือ เอสเพรสโซ่(Espresso) ซึ่งเข้มข้น และขมมันเป็นอย่างมาก ซึ่งทหารอเมริกาที่ประจำในฐานทัพส่วนมากไม่ค่อยชอบมากนัก ทหารอเมริกาได้ทำการผสมน้ำร้อนลงไปเพื่อเจือจางความเข้มข้นของกาแฟนั้น เพื่อให้เกิดรสกลิ่นเบาบางและได้รสชาติที่อ่อนหวานมากขึ้น  หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มเรียกเมนูที่ปรับแต่งอย่างง่ายๆ นี้ว่า “กาแฟอเมริกาโน่” นั่นเอง ทั้งชื่อที่เท่ห์ และ ยังเรียกง่ายอีกด้วยกลายเป็นที่นิยมและเข้าใจกันอย่างทั่วไปในวงการกาแฟ

 

แล้ว กาแฟอเมริกาโน่ ทำอย่างไรละ ???

...อเมริการโน่(Americano) เป็นเมนูอย่างที่เรารู้กันครับ ว่ามีส่วนผสมแสนง่ายๆ มีเพียง น้ำร้อนที่สะอาด และ เอสเพรสโซ่ (Espresso Shot) ซึ่งเราก็ได้เมนูโปรดอันแสนง่าย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ ถ้าอยากได้กาแฟอเมริกาโน่(Americano)ที่ดี เราต้องเริ่มจาก เอสเพรสโซ่(Espresso Shot) ที่ดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

เพื่อนๆอาจรู้จักกับการเรียกเมล็ดกาแฟว่า "เมล็ดเอสเพรสโซ" แต่ในความเป็นจริง เม็ดกาแฟที่เราใช้ก็เป็นเม็ดกาแฟคั่วปกติทั่วไปที่เราใช้กันเอสเพรสโซเป็นวิธีการสกัดกาแฟวิธีนึงที่ผ่านเครื่องชงความดัน  แต่อาจจะมีวิธีการคั่วหรือ การเบลนเพิ่มขึ้นมากแล้วแต่สไตร์การดื่มกาแฟของแต่คนที่ชื่นชอบครับ


เรามาดูวิธีการกันครับ

กาแฟสดที่ชงจากกาแฟคั่วบดทั่วไปที่ง่ายๆ และ มีค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทที่ไม่แพงจนเกินไปก็น่าเป็น กาแฟดริป(Drip) ซึ่งก็เป็นไปตามชื่อเลยครับ คือ เอาน้ำร้อนที่เราเตรียมไว้ค่อยๆ เทผ่านเม็ดกาแฟคั่วบด อย่างช้าๆ เราก็ได้กาแฟพร้อมดื่มแล้วครับ แล้วเอสเพรสโซ่ละเป็นอย่างไร การสกัดเอสเพรสโซ่ คือการสกัดกาแฟคั่วที่บดละเอียด ใช้แรงดันสูงมาก ใช้ปริมาณน้ำในการสกัดน้อย ใช่เวลาสั้นมากๆ เป็นระดับวินาที จึงได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกาแฟที่เข้มข้น มีครีม่า (Crema)


มาดูละดับการคั่วกันครับ

โดยปกติแล้วระดับการคั่วที่เหมาะกับกาแฟเอสเพรสโซ่(Espresso)ส่วนมากจะเป็นระดับคั่วเข้ม เพราะว่า เม็ดกาแฟคั่วเข้มจะะให้บอดี้ที่หนัก และมีความเป็นกรดต่ำ(ไม่เปรี้ยว) และที่สำคัญคือมีครีม่า(Crema) ที่สวยงาม

ครีม่า(Crema)เกิดจากกาแฟคั่วเข้ม ซึ่งกาแฟคั่วเข้มจะเป็นระกับการคั่วที่มีน้ำมันเคลือบอยู่บนผิวเมล็ดกาแฟ เมื่อผ่านการสกัดด้วยน้ำที่ร้อนและมีความดันสูงของเครื่องเอสเพรสโซ่(Espresso Machine) จึงทำให้เกิดฟองของชั้นน้ำมัน มีความเป็นCreamy นุ่มนวล ลอยอยู่บนEspresso Shot เราเรียกสิ่งนี้ว่าครีมม่า(Crema)

…เรามาพูดถึงกาแฟเบลนกันบ้างครับ ส่วนมากผู้ที่ชื่นชอบกาแฟจะนึกถึงกาแฟอราบิกา(Arabica) ซึ่งเป็นกาแฟสายพันธุ์ที่ ให้ความหอม สะอาด(Clean Cup) มีความหวาน นุ่มนวล มีความเป็น Fruity ที่น่าชวนดื่ม ส่วนกาแฟโรบัสต้า(Robusta) ในอดีตมักจะไม่นิยมเป็นส่วนผสมในกาแฟ เพราะโรบัสต้า(Robusta)เป็นสายพันธุ์ที่ไม่มีความโดดเด่นเรื่องรสชาติ มีกลิ่นรสที่รุนแรง ขมเกินไป รวมไปถึงมีคาเฟอีน(Caffeine) มากเกินไปอีกด้วย

...แต่ แต่ แต่ มีข้อยกเว้นถ้าเราต้องการอะไรบางอย่างที่เป็นข้อดีจากโรบัสต้า(Robusta) การเบลนโรบัสต้า(Robusta)ลงไปเล็กน้อยในกาแฟอราบิกา(Arabica) จะทำให้กาแฟอเมริกาโน่(Americano)แก้วนั้น ได้Body ที่หนักขึ้น และมีคาเฟอีน(Caffeine)มากขึ้นอีด้วย

ถึงอย่างไรการเบลนโรบัสต้า(Robusta) ลงไปในกาแฟเอสเพรสโซ่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมของคนดื่มกาแฟที่รักและชอบสายพันธุ์อราบิก้า(arabica) แต่หลายๆคนที่รักในกาแฟอเมริกาโน่(Americano) ก็ยังรักในกาแฟที่มี Bodyที่หนักและต้องการคาเฟอีนเพิ่ม ก็จะเลือกที่มีกาแฟโรบัสต้า(Robusta) ผสมเข้ามา เช่น นักศึกษาที่ต้องอ่านหนังสือก่อนสอบ นักกีฬาที่ต้องการการออกกำลังกายและเร่งเผาผลาญพลังงาน หรือแม้แต่ผู้คนที่เดินทางที่ต้องการการตื่นตัว ไม่ง่วง เวลาขับรถ


น้ำที่ใช้ในการชงละ

น้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยครับในการทำอเมริกาโน่(Americano)  ต้องสะอาด เป็นน้ำจืดที่ดื่มแล้วสดชื่น ไม่มีกลิ่นอื่นมารบกวน คือพูดได้ว่า น้ำที่ควรนำมาชง ต้องเป็นน้ำเปล่าที่เราดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น และไม่เหม็นนั่นเอง ก็เพียงพอแล้วที่จะนำไปชงแล้วได้กาแฟแก้วโปรดสักแก้วมาดื่มในเวลาที่ใช่

ความร้อนของน้ำที่เรานำมาสกัดกาแฟจากเครื่องชงกาแฟ(Espresso Machine) จากที่นิยมจะอยู่ประมาณ 94 ํC  ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เครื่องชงกาแฟทั่วไปใช้กัน


แล้วกาแฟอเมริกาโน่(Americano) จริงๆแล้วเป็นยังไงกันแน่

เริ่มกันเลยนะครับ กาแฟอเมริกาโน่(Americano) = น้ำร้อน + เอสเพรสโซ่(Espresso Shot)  แต่เดี๋ยวก่อนครับเพื่อนๆ มันไม่ง่ายขนาดนั้นครับ  เราจะเทอะไรก่อน อะไรหลัง ละครับ ค่อยตามมาดูกันครับ

เพื่อนๆ หลายๆคนบอกว่า เรานำกาแฟเอสเพรสโซ่(Espresso Shot) มาใส่ในแก้วก่อน แล้วค่อยเทน้ำร้อนลงบนกาแฟเอสเพรสโซ่  ซึ่งมีหลายๆคนบอกว่าวิธีการนี้จะทำให้กาแฟแก้วนี้มี Body ที่ดี และรักษา ครีม่า(Crema) ได้ดี

แต่ก็มีอีกทางนึงคือเราต้องเครียมน้ำร้อนไว้ในแก้วก่อน แล้วค่อยเททับเอสเพรสโซ่(Espresso) ตามน้ำร้อนเข้าไปอีกที ซึ่งหลายๆคน บอกว่าชอบวิธีการนี้มากกว่า เพราะตอนดื่มอเมริกาโน่(Americano) แก้วนี้จะยังควเห็นความสวยงามของครีม่า(Crema)ที่สวยงาม ลอยอยู่บนแก้วกาแฟถ้วยโปรดอยู่ครับ แต่ก็มีข้อควรระวังนิดนึงนะครับ ถ้าน้ำร้อนมากเกินไป จะทำให้กลิ่น(Aroma)ที่หอมของกาแฟจางหายไปอย่างรวดเร็ว

กาแฟเอสเพรสโซ่(Espresso Shot)+น้ำร้อน = อเมริกาโน่(Original Americano)

น้ำร้อน + กาแฟเอสเพรสโซ่(Espresso Shot) = ลองแบล็ค (Long Black)

 

แล้วแบบไหนถูกต้องละ สำหรับเราแล้ว ไม่มีอันไหรถูก อันไหนผิด เพราะทั้งสองวิธีนั้นเราจะได้กาแฟที่อร่อยและเป็นกาแฟถ้วยโปรดของเราทั้งคู่เลยครับ

แอบกระซิบ: เพื่อนๆ ลองทำ 2 วิธีนี้ดูครับ รสชาติ และกลิ่นที่ได้จะไม่เหมือนกันเลยทีเดียวครับ มีความอร่อยที่แตกต่างกัน


สรุปแล้วเราใช้อัตราส่วนเอสเพรสโซ่ และ น้ำ เท่าไร่กันแน่

แน่ละครับ โดยปกติแล้วเราจะใช้เอสเพรสโซ่(Espresso Shot) โดยประมาณ 1-5 Shot และใช่น้ำร้อนเพื่อเจือจางเอสเพรสโซ่(Espresso) เป็น อเมริกาโน่(Americano) ประมาณ 6 ออนซ์ หรือ 100 ML โดยประมาณ แต่จริงๆแล้วไม่มีกฎอะไรตายตัวครับ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราชอบ

สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ชอบ กาแฟอเมริกาโน่(Americano) ที่เข้มๆ ก็อาจจะต้องเลือกใช้กาแฟคั่วที่มีระดับการคั่วที่ลึก หรือไม่ก็ต้องเพิ่มจำนวนกาแฟบดเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบกาแฟอเมริกาโน่(Americano)ที่เข้มข้นมากนัก เพื่อนลองสั่งเมนู ลุงโก้(Lungo) ก็เป็นทางเลือกอีกทางเลือกครับ โดยกาแฟ Lungo นี้จะเป็นการสกัดกาแฟเหมือนๆ Espresso Shot แต่เพิ่มการสกัดด้วยน้ำร้อนเป็น 2 เท่า แต่อาจจะได้รสชาติที่ติดขมฝาด ที่เรียกว่า Bitter ติดมาด้วยครับ

แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบเมนูกาแฟ Lumgo แต่ไม่อยากได้รสชาติติดขมฝาด(Bitter) เพื่อนๆ ลองลดเบอร์บดให้หยาบขึ้นอีกนิดหน่อยครับ เพื่อที่จะได้ลดการสกัดกาแฟรสชาติจะได้ไม่ติดขมฝาด ซึ่งการชงแบบนี้เรียกว่า Caffe Crema ซึ่งเป็นเมนูกาแฟที่ยอดนิยมมากครับในทางตอนเหนือของอิตาลี่

เพื่อนคนไหนอยากได้กาแฟอเมริกาโน่(Americano) ที่จัดจ้านและเข้มข้นมากขึ้น เพราะเราอาจจะต้องการคาเฟอีน(Caffeine)มากขี้น เนื่องจากการทำงานในเวลาที่ยาวนาน หรือ ขับรถยาวนานเป็นระยะทางที่ยาวไกล  ลองบอกบาริสต้าจากคาเฟ่ที่เพื่อนสั่งให้เพิ่มช็อตกาแฟอีกสัก 1 ช็อต รับรองตื่นแน่นอน  ซึ่งการเพิ่มช็อตในกาแฟอเมริการโน่(Americano) อย่างนี้เรียกว่า “Red Eye”


อเมริกาโน่ และ เมนูกาแฟอื่นๆ

เพื่อนๆ เคยกินกาแฟดำหรืออเมริกาโน่แล้วใส่นมกันไหมครับ ผมบอกได้เลยว่าอร่อยมากๆ เมนูกาแฟอย่างนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศอเมริกา บางคนจะสั่งเป็น Americano with milk บ้าง หรือ White Americano บ้าง เมนูทำไม่ยากครับ คือ กาแฟอเมริกาโน่ร้อนเติมนมเข้าไป เราก็ได้ White Americano แล้วครับ หรือถ้าไปร้านกาแฟหรือCafe ที่เราไปเที่ยว ลองสั่งดูครับ ผมว่า Barista ทุกคนจะทำให้ด้วยความยินดีครับ

Cappucino เป็นเมนูที่ยอดนิยมและสั่งมากอีกเมนูนึง เริ่มต้นจากเราเอสเพรสโซ่(Espresso Shot) อยู่ในแก้ว และเราตีฟองนมแล้วเอาฟองนมที่เราตีได้เททำเป็นชั้นลงไปในแก้วกาแฟที่มีเอสเพรสโซ่เตรียมไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ

Latte ขั้นตอนการทำเหมือน Cappiucino เพียงแค่ว่าฟองนมที่เราดีจะต้องเป็นฟองนมที่ละเอียด(Micro Foam)ซึ่งจะให้ความนุ่มนวล นัวๆ ครับ ซึ่งเข้ากันได้ดีมากๆ และเป็นเมนูโปรดของเพื่อนๆหลายๆคน แน่นอนครับ

Mocha ง่ายมากครับ ทำเหมือน Cappuchino เพียงแต่เราเพิ่มหรือเติมช็อคโกแล็ตร้อน หรือ Syrupรสช็อคโกแล็ตลงไป  เราก็จะได้Mocha ที่แสนจะอร่อยไว้ดื่มแล้วครับ

การสกัดหรือการชงกาแฟให้เป็นเอสเพรสโซ่(Espresso) มีวิธีการและTechnicที่หลากหลาย เพื่อผสมกับน้ำร้อนแล้วได้อเมริกาโน่(Americano) ไม่มีถูก ไม่มีผิดครับ ในบางครั้งเราอยากได้อเมริกาโน่(Americano)ที่แปลกใหม่ ลองใส่ส่วนผสมที่เป็นผลไม้ หรือ สมุนไพรหอมๆบางอย่างลงไป เช่น ผงอบเชย(Cinnamon) หรือ Syrup กลิ่นกุหลาบลงไป ก็จะได้ประสบการณ์เครื่องดื่มถ้วยโปรดที่ดีครับ

แต่ถ้ายุ่งยาก ไม่สะดวก ลองหาร้านกาแฟเล็กๆที่มีคุณภาพ ใส่ใจ ซึ่งมีมากมายในประเทศของเรา


เราทำอเมริกาโน่โดยไม่ใช้เครื่องชงEspresso Machine ได้หรือเปล่า ?

เป็นคำถามที่Classic และเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากครับ เราต้องเข้าใจกันก่อนนะครับว่า เอสเพรสโซ่(Espresso)เป็นการสกัดกาแฟที่ต้องใช้น้ำที่ร้อนและต้องใช้แรงดันของน้ำร้อนประมาณ 7-8 Bar ในการช่วยสกัด เราถึงจะได้กาแฟเอสเพรสโซ่(Espresso) ซึ่งสังเกตุง่ายๆครับ กาแฟที่เป็นเอสเพรสโซ่(Espresso)คุณภาพจะต้องมีครีม่า(Crema) ลอยอยู่ข้างบนกาแฟแบบสวยงาม แต่ถ้าเราไม่มีเครื่องชงEspresso Machine ที่แสนแพง เราก็ทำได้ครับ
สมัยนี้มีเครื่องชงราคาไม่แพงและยังได้กาแฟเอสเพรสโซ่(Espresso) เพื่อมาทำกาแฟอเมริกาโน่(Americano) ได้อย่างไม่แพ้กันเลยครับ เช่นเครื่อง Flair , Staresso ซึ่ง ณ.ปัจจุบัน มีตั้งแต่หลักพัน ถึง หลักหมื่น แล้วแต่เราจะเลือกได้เลยครับ

แต่ถ้าเพื่อนๆรู้สึกยุ่งยาก ไม่สะดวก ลองหาร้านกาแฟเล็กๆที่มีคุณภาพ ใส่ใจ ซึ่งมีมากมายในประเทศของเรา แล้วลองเข้าไปสั่งดู แล้วเราอาจเจอร้านกาแฟที่รู้สึกใช่ และอยากเป็นลูกค้าเจ้าประจำร้านนี้ตลอดไปครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้